"วันโอโซนโลก" (International Day for the Preservation of the Ozone Layer)

เพื่อฉลอง "วันโอโซนโลก" (International Day for the Preservation of the Ozone Layer) ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP ได้จัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ "Greenovation Summit: From science to global action" โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 26 คน วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของชั้นโอโซน และส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมให้แก่คนในองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับธีมประจำปี 2025

กิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก คุณนุชกมล โจเซฟ ผู้จัดการฝ่ายอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม เป็นวิทยากร เพื่อให้ความรู้เชิงลึกที่เชื่อมโยงหลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ากับการปฏิบัติจริงดังนี้:

• ความสำคัญของชั้นโอโซน ชั้นโอโซนเปรียบเสมือนเกราะป้องกันโลกจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์ การที่ชั้นโอโซนบางลงทำให้รังสี UV โดยเฉพาะรังสี UV-B สามารถส่งตรงถึงสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสภาพอากาศสุดขั้ว และปัญหาสุขภาพในมนุษย์ เช่น โรคมะเร็งผิวหนังและโรคต้อกระจก
• ปัญหาวิกฤตและทางออกระดับโลก สาเหตุหลักของการทำลายชั้นโอโซนคือสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น คลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFCs) ซึ่งทำปฏิกิริยาลูกโซ่ในการทำลายโอโซนอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิด "รูโหว่โอโซน" (Ozone hole) ในหลายพื้นที่ทั่วโลก
• วันโอโซนโลก เป็นการรำลึกถึง "พิธีสารมอนทรีออล" (Montreal Protocol) ซึ่งเป็นข้อตกลงระดับโลกที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันยิ่งใหญ่ในการลดและเลิกใช้สารทำลายชั้นโอโซน ความสำเร็จจากข้อตกลงนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมากและคาดการณ์ว่าชั้นโอโซนจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับปี 1980 ภายในปี 2040 (ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก) และปี 2066 (เหนือแอนตาร์กติกา)
• นวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน มีการนำเสนอตัวอย่างนวัตกรรมในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น โรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด กังหันลมแบบลอยบนอากาศ (Flying Wind Power) และเทคโนโลยีกำจัดขยะเพื่อผลิตพลังงาน

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน ได้แก่:

• มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 (2050)
• ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขอบเขตที่ 1 และ 2 ลง 20% ภายในปี 2573 (2030) (เทียบกับปีฐาน 2567)
• เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด มากกว่า 30% ภายในปี 2573 (2030) (เทียบกับปีฐาน 2566)
• เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและลดการใช้น้ำ ลงอย่างน้อย 10% ภายในปี 2573 (2030) (เทียบกับปีฐาน 2567)

ที่ SSP เราเชื่อว่าพลังงานสะอาดไม่ได้เป็นเพียงแค่การช่วยเหลือโลกเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคนอีกด้วย