ความสำคัญและพันธกิจ

ความสำคัญของประเด็นห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ ในฐานะที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียน การบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กรและผู้มี ส่วนได้เสียทุกภาคส่วน เนื่องจากการดำเนินธุรกิจพลังงาน หมุนเวียนต้องอาศัยความร่วมมือจากคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์และเทคโนโลยี สําหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล ไปจนถึงการบำรุงรักษาและการจัดการวัสดุที่หมดอายุการใช้งาน

เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในการบริหารห่วงโซ่อุปทาน

เป้าหมาย และผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย

สื่อสารให้คู่ค้ารับทราบจรรยาบรรณคู่ค้าเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยการส่งเอกสารให้คู่ค้าทุกรายที่มีการสั่งซื้อได้รับทราบ
สัดส่วนคู่ค้ารายใหม่ที่มียอดการสั่งซื้อเกิน 500,000 บาท ที่ได้รับการประเมินโดยใช้เกณฑ์การคัดเลือกด้าน ESG ร้อยละ 100
สัดส่วนคู่ค้าปัจจุบันที่เป็นคู่ค้าสำคัญ (Critical Tier-1 Supplier) และคู่ค้าสำคัญที่ไม่ได้ทำธุรกิจกับบริษัทโดยตรง (Critical Non-Tier 1) ได้รับการประเมินโดยใช้เกณฑ์ด้าน ESG ร้อยละ 100
/

ผลการดำเนินงาน 2567

ในปี 2567 สัดส่วนคู่ค้ารายใหม่ที่มียอดการสั่งซื้อเกิน 500,000 บาท ที่ได้รับการประเมินโดยใช้เกณฑ์การคัดเลือกด้าน ESG ร้อยละ 100

ตารางนี้สามารถเลื่อนแนวนอนได้

คู่ค้ารายใหม่ที่ผ่านการคัดกรองโดยใช้เกณฑ์ทางสิ่งแวดล้อม/สังคม ปี 2566 ปี 2567
จำนวนคู่ค้ารายใหม่ที่ต้องได้รับการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม/สังคม* 3 12
คู่ค้ารายใหม่ที่ผ่านการคัดกรองโดยใช้เกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคม 3 12

*การคัดเลือกคู่ค้า (ผู้ขาย/ ผู้รับจ้าง) ในกรณีที่มียอดการสั่งซื้อเกิน 500,000 บาท ในครั้งแรก จะต้องนำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม/สังคมมาประเมิน คู่ค้าจะต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจึงจะสามารถทำการสั่งซื้อ/สั่งจ้างได้ และหลังเสร็จสิ้นกระบวนการต้องมีการประเมินอีกครั้ง หากคู่ค้าไม่ผ่านเกณฑ์ก็จะทำการคัดออกจากบัญชีผู้ค้า (Vendor List)

กลุ่มบริษัทฯ ได้ทำการประเมินผลกระทบเชิงลบตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคมทั้งที่เกิดขึ้นจริงและที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากคู่ค้าสำคัญที่ทำธุรกิจกับบริษัทโดยตรง (Critical Tier-1 Supplier) และคู่ค้าใหม่ ในปี 2567 จำนวน 20 ราย ไม่พบว่ามีส่วนในการก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคม

ตารางนี้สามารถเลื่อนแนวนอนได้

ผลกระทบเชิงลบตลอดห่วงโซ่อุปทาน ปี 2566 ปี 2567
จำนวนคู่ค้าที่ได้รับการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม 3 20
จำนวนคู่ค้าที่พบว่ามีส่วนในการก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงและคาดว่าจะเกิดขึ้น (Actual and potential negative environmental impacts) อย่างมีนัยสำคัญ 0 0
จำนวนคู่ค้าที่ได้รับการประเมินผลกระทบด้านสังคม 3 20
จำนวนคู่ค้าที่พบว่ามีส่วนในการก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบด้านสังคมที่เกิดขึ้นจริงและคาดว่าจะเกิดขึ้น (Actual and potential negative social impacts) อย่างมีนัยสำคัญ 0 0

แนวทางการบริหารจัดการ

กลุ่มบริษัทฯ มุ่งมั่นบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ การบริหารงานยึดหลักการจัดการความเสี่ยงและความยืดหยุ่นเพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ในการดำเนินงาน กลุ่มบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและผลกระทบในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยคัดเลือกคู่ค้าที่ยึดมั่นในแนวทางการผลิตและให้บริการที่รับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ และดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับนโยบายและมาตรฐานจริยธรรมของกลุ่มบริษัทฯ มีการกำหนดประเด็นสังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่และการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับคู่ค้าปัจจุบันที่เป็นคู่ค้าสำคัญ (Critical Tier-1 Supplier) นอกจากนี้ ยังมุ่งส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพคู่ค้าด้าน ESG ยกระดับคุณภาพการดำเนินงาน และผลักดันการเติบโตร่วมกัน อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนระยะยาวของห่วงโซ่อุปทาน และสร้างความเชื่อมั่นในกับผู้มีส่วนได้เสีย โดยคณะกรรมการบริษัทเป็นผู้กำกับดูแล และฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างรับผิดชอบการดำเนินงานตามนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฯ ดังนี้

01

ความยั่งยืน: มุ่งมั่นบูรณาการหลักการ ESG เข้ากับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลตลอดห่วงโซ่อุปทาน

02

ความโปร่งใสและตรวจสอบได้: กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างต้องมีความโปร่งใส เป็นธรรม และสามารถตรวจสอบได้ โดยเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย

03

การปฏิบัติตามกฎหมาย: บริษัทฯ และคู่ค้า ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเคร่งครัด

04

สิทธิมนุษยชน: บริษัทฯ และคู่ค้าต้องเคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล เช่น ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และแนวปฏิบัติของ UN Guiding Principles on Business and Human Rights

05

มาตรฐานแรงงาน: บริษัทฯ และคู่ค้าต้องปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงาน เช่น การจ่ายค่าจ้างที่เป็นธรรม การกำหนดชั่วโมงการทำงาน การดูแลสุขภาพและความปลอดภัย และการไม่ใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ

06

การปกป้องสิ่งแวดล้อม: บริษัทฯ และคู่ค้าต้องดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การควบคุมมลพิษ โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ

07

การต่อต้านการทุจริต: บริษัทฯ และคู่ค้าต้องมีนโยบายและมาตรการในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และการให้สินบน

08

ความรับผิดชอบต่อสังคม: บริษัทฯ และคู่ค้าต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและชุมชน

แนวทางดำเนินงานในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฯ มีดังนี้

การคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่
การประเมินความเสี่ยงและระบบคู่ค้าสำคัญ
การประเมินคู่ค้าปัจจุบัน
การพัฒนาคู่ค้า

กลุ่มบริษัทฯ มีการสื่อสารให้คู่ค้าได้ทราบถึงจรรยาบรรณคู่ค้าเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน (SSP Supplier Code of Conduct) ตามแนวทางการบริหารจัดการความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อส่งเสริมให้คู่ค้าตระหนักถึงความสำคัญและเป็นแนวทางปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของกลุ่มบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส รวมทั้งสนับสนุนให้คู่ค้ามีนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน และนำหลักปฏิบัติในจรรยาบรรณคู่ค้าเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนฉบับนี้ ให้คู่ค้าและผู้รับเหมาของตนนำไปฏิบัติด้วยเช่นกัน โดยแบ่งเป็นการดำเนินการใน 6 ด้าน ได้แก่

01

ด้านจริยธรรมทางธุรกิจ: ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบกติกาการแข่งขันที่ดี เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ เคารพทรัพย์สินทางปัญญา ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน

02

ด้านการปฏิบัติต่อแรงงานและสิทธิมนุษยชน: การจ้างงานที่ถูกต้องและปฏิบัติตามกฎหมาย การปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและไม่มีการใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานบังคับทุกรูปแบบ

03

ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย: ปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย, จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายให้เหมาะสมและเพียงพอ, การเตรียมพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉินรวมถึงมีการสื่อสารให้เข้าใจและปฏิบัติตาม

04

ด้านสิ่งแวดล้อม  และการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้องบังคับด้านสิ่งแวดล้อม, มีการบริหารจัดการมลพิษของเสียตามกฎหมายกำหนด, ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า, ให้ความร่วมมือในการผลักดันการติดตาม ปรับปรุง ให้ข้อมูล และเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

05

ด้านการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม: ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชน สังคมรอบข้าง มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคมตามโอกาสและความเหมาะสม

06

ด้านการให้ความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรม: เสนอแนะผลิตภัณฑ์ แนวทางการดำเนินการ โดยมีการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนำหลักปฏิบัติในจรรยาบรรณนี้ไปให้คู่ค้าและผู้รับเหมา

การคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่

กลุ่มบริษัทฯ ได้จัดทำเกณฑ์ในการคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคู่ค้าสามารถส่งมอบสินค้า/บริการที่เป็นไปตามเกณฑ์หรือความต้องการขององค์กร โดยผ่านการประเมินที่ครอบคลุมประเด็นดังต่อไปนี้

  • สินค้า/บริการที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Recycle materials, Non-toxic ingredients) ได้รับการรับรองจากมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรม หรือมาตรฐานอื่น ๆ ที่เชื่อถือได้
  • สินค้า/บริการ มีราคาที่สอดคล้องและเหมาะสม
  • คู่ค้ามีการดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือกฎหมาย เช่น มีแนวทางในการกำจัดของเสียอย่างเป็นระบบ ไม่ดำเนินงานโดยก่อให้เกิดมลภาวะเป็นต้น
  • คู่ค้ามีการดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมประเด็นด้านสังคม ไม่มีการเลือกปฏิบัติ การจ้างแรงงานที่ถูกกฎหมาย มีความรับผิดชอบต่อสังคม และเคารพต่อสิทธิมนุษยชน

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลของกลุ่มบริษัทฯ ดำเนินการโดย บริษัท ยูนิ พาวเวอร์ เทค จํากัด (UPT) ใช้เชื้อเพลิงในการผลิตเป็นกากหรือวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร เช่น ชิ้นไม้สับ เปลือกไม้ และเชื้อเพลิงชีวมวลในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งการคัดเลือกคู่ค้าที่ส่งมอบเชื้อเพลิงในการผลิตจะต้องพิจารณาแหล่งที่มาของเชื้อเพลิงเพื่อให้มั่นใจว่าได้มาอย่างถูกต้อง ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยคู่ค้าที่เป็นผู้ส่งมอบเชื้อเพลิงการผลิตประเภทชิ้นไม้และเปลือกไม้ต้องได้การรับรอง FSC (Forest Stewardship Council Certificate) ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าเป็นไม้ที่มาจากป่าหรือแหล่งปลูกที่มีการจัดการป่าไม้ในเชิงพาณิชย์อย่างถูกต้องตามหลักการที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและมีการปลูกป่าทดแทนไม้ที่นำมาใช้งาน

นอกจากประเด็นที่มาของเชื้อเพลิงในการผลิตซึ่งคู่ค้าต้องได้รับ FSC Certificate แล้ว โรงไฟฟ้าชีวมวลยังมีความเสี่ยงที่การดำเนินงานจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนโดยรอบ การประเมินเพื่อคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่ของ UPT จึงมีความเข้มงวด และกำหนดให้ประเด็นการได้รับการรับรองระบบการบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 และระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001 เป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์ในการประเมินด้วย

การพัฒนาคู่ค้า

กลุ่มบริษัทฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนาคู่ค้าและผู้รับเหมาในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะคู่ค้าสำคัญในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความเสี่ยงในการละเมิดกฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งสนับสนุนการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของคู่ค้าและผู้รับเหมาให้ดียิ่งขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐานของบริษัทฯ เช่น สนับสนุนให้คู่ค้าและผู้รับเหมาที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการหลักให้แก่บริษัทฯ มีการพัฒนาในกระบวนการดำเนินธุรกิจและได้รับการรับรองระบบการบริหารจัดการที่สอดคล้องตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 9001 ISO 14001 ISO 45001

การชำระเงินให้คู่ค้า

บริษัทฯ ได้กำหนดระยะเวลาชำระเงินให้กับคู่ค้าโดยยึดหลักความเป็นธรรมและความเหมาะสม เพื่อสร้างโอกาสและความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทมีแนวปฏิบัติด้านระยะเวลาชำระเงินให้กับคู่ค้าไม่เกิน 60 วัน แต่อย่างไรก็ตามระยะเวลาการชำระเงินอาจไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติเนื่องจากข้อจำกัดของแต่ละธุรกิจและปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม เช่น ประเภทธุรกิจของสินค้าและการให้บริการ ระยะเวลาตามสัญญากับคู่ค้า คุณภาพมาตรฐานของสินค้าและการให้บริการ เป็นต้น

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

จรรยาบรรณคู่ค้าเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
นโยบายการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน