สำรวจนโยบายพลังงานหมุนเวียนไต้หวัน ผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก

ไต้หวัน และนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อม

ไต้หวันนับเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมของโลก ที่โดดเด่นในด้านอุตสาหกรรมสีเขียว และพลังงานหมุนเวียน โดยตั้งแต่ปลายปี 2013 ไต้หวันใช้พลังงานหมุนเวียน 8.7% ของพลังงานประเทศทั้งหมด และมีเป้าหมายที่จะทำให้สัดส่วนพลังงานภายในประเทศ 20% มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ภายในปี 2025 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายในการลดการใช้พลังงานถ่านหิน และเพิ่มการใช้พลังงานจากแก๊สธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas - LNG) โดยในนโยบายนี้ยังมีการตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้ถึง 20 GW และผลิตพลังงานจากกังหันลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind power) ให้ถึง 5.7 GW ภายในปี 2025

แสงแดด สายลม พลังงานหมุนเวียนหลักของไต้หวัน

ไต้หวันเป็นประเทศที่สามารถผลิตพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่หลากหลาย แต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่างเช่นกัน ซึ่งมีตั้งแต่พลังงานแก๊สชีวภาพ จากของเสียในอุตสาหกรรมเกษตร, พลังงานความร้อนใต้พิภพจากพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ถูกนำมาใช้งานอย่างเต็มที่, พลังงานน้ำจากเขื่อน ที่ถูกจำกัดโดยภูมิประเทศและเเผ่นดินไหว ทำให้ไต้หวันพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนจาก พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมเป็นหลัก

พลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวัน

พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนหลักที่ไต้หวันใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยพลังงานไฟฟ้าที่ไต้หวันสามารถผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ในปี 2023 อยู่ที่ 12.4 GW และรัฐบาลไต้หวันมีเป้าหมายที่จะทำให้ 7.5 ล้านครัวเรือนในไต้หวันใช้พลังงานแสงอาทิตย์ จึงได้มีการกำหนดให้อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ และอุตสาหกรรม LED เป็นสองอุตสาหกรรมที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปในอนาคต

หลังงานลมในไต้หวัน

พลังงานลมเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานที่ไต้หวันมีมากที่สุด โดยในปี 2016 ไต้หวันมีกังหันลมชายฝั่งในการผลิตพลังงานอยู่ถึง 346 ต้น มีกำลังผลิต 682 MW ซึ่งปัจจุบันไต้หวันใช้พลังงานลมจากทั้งกังหันลมชายฝั่ง และกังหันลมนอกชายฝั่ง ทำให้ในปี 2023 มีกำลังผลิตไฟฟ้าสูงถึง 2.6 GW ทำให้พลังงานลมเป็นอีกหนึ่งพลังงานหมุนเวียนหลักที่ช่วยขับเคลื่อนไต้หวัน

ทำไมพลังงานหมุนเวียนจึงเป็นเรื่องสำคัญของไต้หวัน

ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ทำให้ในอดีตไต้หวันจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันถึง 90% ในการผลิตพลังงาน ทำให้การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการลดการพึ่งพาน้ำมัน พลังงานถ่านหิน และพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับไต้หวัน นโยบาย และการพัฒนาของไต้หวันจึงให้ความสำคัญกับการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ไต้หวันสามารถลดการนำเข้าพลังงานลงได้ และสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานให้ตนเอง ทำให้ปัจจุบันไต้หวันเป็นประเทศที่มีการเติบโตด้านการผลิตพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม เพื่อทำตามเป้าหมายที่จะผลิตพลังงานหมุนเวียนใช้ภายในประเทศให้ถึง 20% ของพลังงานทั้งหมดภายในปี 2025

เสริมสร้างพาวเวอร์และพลังงานหมุนเวียนในไต้หวัน

ปัจจุบันเสริมสร้าง พาวเวอร์ ได้เข้าลงทุนในโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์บนพื้นที่ทำการประมง (Fishery Solar) ในเมืองไถหนาน ประเทศไต้หวัน ขนาดกำลังผลิต 17 เมกะวัตต์ ด้วยมูลค่าลงทุนไม่เกิน 1,064 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือคิดเป็นไม่เกิน 1,220 ล้านบาท ผ่านการทำรายการโดย SITW1 Company Limited โดย Sermsang International (Taiwan) ที่ถือหุ้น 100% และ บริษัท เสริมสร้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เสริมสร้างพาวเวอร์ ถือหุ้น 100% เช่นกัน นอกจากนี้ เสริมสร้าง พาวเวอร์ ได้เข้าลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ J&V Energy Technology Co.,Ltd (J&V Energy) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในพลังงานสะอาด เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจพลังงานทดแทน โดยบริษัทยังร่วมกับบริษัทย่อยของ J&V Energy, Revo Power Co., Ltd., ในการร่วมศึกษาโครงการพลังงานลมบนบกในมณฑลผิงตง ประเทศไต้หวัน กําลังการผลิตติดตั้ง 38 เมกะวัตต์ โดยการลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศไต้หวันมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 1,220 ล้านบาท

Source:

https://www.trade.gov/market-intelligence/taiwan-renewable-energy-market

https://en.wikipedia.org/wiki/Renewable_energy_in_Taiwan

https://en.wikipedia.org/wiki/Solar_power_in_Taiwan

https://en.wikipedia.org/wiki/Wind_power_in_Taiwan

https://asianinsiders.com/2023/07/11/taiwans-drive-for-renewable-energy-is-creating-huge-opportunities-for-western-power-companies/